ถอดบทเรียน กิจกรรมสานสัมพันธ์ โดยคุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์ (Part 2/2)
หลังจากกิจกรรมสานสัมพันธ์ คุณครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง เสร็จสิ้นลงเรียบร้อยแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า คุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์ ได้เรียนรู้สิ่งใดกลับมากันบ้าง และก้าวต่อไปของพวกเขาจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันเลย
กว่าจะได้มาเป็นทีมแกนนำคุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์
แน่นอนว่าช่วงแรก ทีมคุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์ ก็ได้ประสบกับความยากลำบากในการสร้างทีมเช่นเดียวกัน แล้วพวกเขาจัดการกับเหตุการณ์นี้กันอย่างไรบ้างล่ะ?
เริ่มจากการสร้างบรรยากาศที่ดีภายในทีม ในทุกครั้งที่มาประชุมงานกัน จะต้องมีกิจกรรมละลายพฤติกรรม อาจมีเพลง และขนม ของกินเล่น เพื่อให้ในระหว่างการพูดคุยเกิดความผ่อนคลาย ไม่เครียดหรือกดดันจนเกินไป
ชวนคุณครูท่านอื่นๆ มาร่วมเป็นแกนนำโดยการให้เขาได้ลองเล่นกิจกรรม และสัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง เพื่อให้เขาได้เข้าใจกระบวนการคิด การปฏิบัติ
เสริมแนวคิดให้คนในทีม ในเรื่องของการค้นหาวิธีการ ไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา
สร้างค่านิยมว่า ความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์ในการทำงาน เป็นเรื่องปกติ เพื่อไม่ให้คนในทีมรู้สึกกดดันตัวเองมากเกินไป จนทำให้รู้สึกว่าการทำงานนี้ไม่สนุก
หลังจัดกิจกรรม คุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์ได้เรียนรู้สิ่งใดกลับมากันบ้าง
หลังจากที่กิจกรรมสานสัมพันธ์ คุณครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง ได้จบลงแล้ว เราจึงได้ชวนคุณครูมาทำกิจกรรม I Like / I Learn เพื่อทบทวนสิ่งที่ชอบและได้เรียนรู้จากกิจกรรมนี้กัน
จากกิจกรรมจัดดอกไม้แบบโคริงกะ เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างสมาธิได้ ไม่ต่างจากการนั่งสมาธิ อีกทั้งการทำกิจกรรมร่วมกันยังช่วยให้ผู้ปกครองได้เห็นลูกในอีกด้านนึง ที่พวกเขาอาจจะไม่เคยเห็น เกิดเป็นความรู้สึก ใจฟู ภูมิใจในตัวลูก
จากกิจกรรมร้องเพลงประสานเสียง พบว่า เป็นกิจกรรมที่ช่วยละลายพฤติกรรม ได้ปลดปล่อยพลังงานอย่างเต็มที่ ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแสดงออก สร้างเสียงหัวเราะและบรรยากาศที่ Relax
จากกิจกรรมน้ำใส-น้ำขุ่น พบว่า เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เห็นมุมมองของเด็กๆ มากยิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงตัวตนของพวกเขาออกมา การบอกจุดแข็งของกันและกัน รวมไปถึงการได้ลองปรับเปลี่ยรวิธีการพูด ให้ฟังดูชื่นใจมากยิ่งขึ้น
จากการรับ Feedback ตอนท้าย ผู้ปกครองหลายท่านยังรู้สึกไม่คุ้นชินกับการมาทำกิจกรรมร่วมกับลูกที่โรงเรียนทั้งวัน เพราะอย่างการประชุมผู้ปกครองตามปกติก็มักจะใช้เวลาเพียงครึ่งวัน
จากกิจกรรมการ์ดเชื่อมใจ เพื่อเปิดใจเด็ก-ผู้ปกครอง พบว่า เด็กหลายคนรู้สึกขอบคุณผู้ปกครองที่ยอมเสียสละเวลาหนึ่งวันมาร่วมกิจกรรมกับพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุข รู้สึกได้รับความสำคัญ และความใส่ใจ
Next Step ของคุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์
แล้วก้าวต่อไปของคุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์ จะเป็นอย่างไรกันนะ พวกเขาจะนำกิจกรรมสานสัมพันธ์ คุณครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง ไปต่อยอดแบบไหนได้บ้าง มาติดตามดูกันเลยค่ะ
นำความรู้ด้าน 10 อารมณ์เชิงบวก มาปรับใช้ในห้องเรียน เพื่อให้เด็กและคุณครูได้เริ่มต้นวัน ด้วยการสำรวจอารมณ์ของตัวเอง ว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอย่างไร จากนั้นจึงนำเข้าสู่กิจกรรมเพื่อปรับอารมณ์เด็กๆ ให้พร้อมที่จะเรียน คุณครูพร้อมที่จะสอน
จัดกิจกรรมห้องเรียนพลังบวก เพื่อให้ห้องเรียนทุกห้องของโรงเรียนบรรจงรัตน์ เป็นห้องเรียนที่ทั้งเด็กและคุณครู สื่อสารกันด้วยคำพูดเชิงบวก ไม่ตำหนิ ดุด่า หรือลงโทษด้วยวิธีการเชิงลบ
สร้างระบบคัดกรอง ดูแล ช่วยเหลือเด็ก เพื่อประเมินว่าเด็กคนไหนบ้างที่ต้องการความใส่ใจ ความอบอุ่น หรือต้องการความช่วยเหลือบางประการมากเป็นพิเศษ (เช่น เด็กที่ถูก Bully ไม่สามารถเข้าสังคมได้) โดยจะส่งต่อข้อมูลให้คุณครูประจำชั้น และนักจิตวิทยา หากจำเป็น
ดำเนินการนำกิจกรรมสานสัมพันธ์ คุณครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง พัฒนาไปเป็นนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงทางด้านความสัมพันธ์ให้กับครอบครัวและเด็ก โดยเปิดรับสมัครครอบครัวมาเข้าร่วมกิจกรรม
และนี่คือบทเรียนที่ได้จากการจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ คุณครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง โดยคุณครู โรงเรียนบรรจงรัตน์ ทาง FamSkool ขอเป็นกำลังใจให้กิจกรรมในครั้งนี้ช่วยจุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ให้กับคุณครู โรงเรียนอื่นๆ เพื่อให้ทุกความสัมพันธ์จับต้องได้